จิ๊กซอว์ เกมต่อตัดตายสยองขวัญจนห้ามลุก


พูดถึงหนังสยองขวัญมีอย่างหนึ่งที่คนไม่ได้ดูหนังแนวนี้ตลอดอาจจะแยกไม่ออก ระหว่างหนังสยองขวัญกับหนังผีไม่เหมือนกัน บางครั้งหนังสยองขวัญก็ไม่ได้หมายถึงหนังผีอย่างเดียว อาจจะหมายถึงหนังฆาตกรรมสั่นประสาทที่เกี่ยวข้องกับฆาตรกรต่อเนื่องที่เหี้ยมโหด ฉลาดเป็นกรด จนเราคิดไม่ถึงก็ได้ ถ้าเป็นหนังแนวนี้ต่างประเทศทำกันเยอะเลย หนึ่งในหนังกลุ่มนี้ที่ได้ทั้งเสียงวิจารณ์และรายได้เยอะมากจนกลายเป็นหนังต่อเนื่องแฟรนไชส์เลยก็คือ saw หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไรแล้วทำไมถึงได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเราจะมาเล่าให้ฟัง แต่สัญญานะว่าถ้าอ่านแล้วจะไม่ลุกจนกว่าจะอ่านจบ

Saw จนถึง jigsaw เกี่ยวข้องกับอะไร

สำหรับหนังเรื่อง saw หรือ jigsaw ในภาคล่าสุดนั้น เป็นเรื่องเดียวกัน แม้จะมีมากถึง 8 ภาคแล้วแต่หนังก็ยังได้รับเสียงตอบรับจากแฟนคลับของหนังอย่างดีเหมือนเดิม โดยหนังแต่ละภาคจะมาในธีมเดียวกันก็คือ เกมแห่งความตายในห้องปิดตาย กล่าวคือ หนังจะเล่าถึงกลุ่มตัวละครผู้โชคดี (หรือโชคร้าย) กลุ่มหนึ่งประมาณ 6-8 คน จะถูกเอาไปไว้ในห้องปิดตายแห่งหนึ่งจากนั้นก็จะต้องเล่นเกมเพื่อเอาตัวรอดกัน ใครแพ้ก็จะถูกฆ่าตายด้วยวิธีการต่างๆกันไปอย่างทรมาน จนเหลือคนสุดท้ายที่หลุดรอดออกมาได้ พร้อมกับปริศนาว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเกมนี้เป็นใคร (ซึ่งก็จับไม่ได้เหมือนเคยเพราะฉลาดเกินกว่าใครจะตามทัน)

ที่มาของซีรีย์

ต้นกำเนิดของหนังเรื่องนี้ ต้องย้อนกันไปถึงสองหนุ่มคนหนึ่งสมัยยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เมลเบิร์น ออสเตรเลียโน่นเลย ตอนนั้นสองหนุ่มที่ชื่อว่า ลีห์ วันเนล กับ เจมส์ วาน อยากทำหนังสยองขวัญมาสักเรื่องหนึ่ง โดยมีแนวคิดเกี่ยวกับเกมแห่งความตายในห้องปิดตาย สถานการณ์คือว่า มีชายสองคนติดอยู่ในห้องแล้วมีศพนอนขวางอยู่ และมีปืนกับเครื่องอัดเสียง จากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไป ปรากฏว่าแนวคิดนี้ ไอเดียนี้ แต่หานายทุนสร้างหนังได้ยากมาก นั่นทำให้ทั้งคู่ต้องยกระดับแนวคิดตัวเองด้วยการสร้างหนังสั้นขึ้นมา เค้าเรียกพวกมันว่า Saw 0.5 แล้วบินเอามันไปเสนอต่อนายทุนถึงสหรัฐเลย ปรากฏว่าทั้งคู่ได้ทำหนังกับบริษัทเล็กๆเจ้าหนึ่ง กับเงินทุนไม่มากเท่าไร(ประมาณ 1,200,000 ดอลลาร์ งบเท่านี้กับหนังที่ปิดตายในเรื่องสถานที่ ถือว่าพอรับได้) เนื่องจากที่นี่สัญญาว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงหนังของเค้าเลย จนกระทั่งหนังได้ออกฉายในช่วงฮาโลวีนปี 2004 กวาดรายได้ทั่วโลกไปยาวๆถึง 103 ล้านดอลลาร์ หนังดังเป็นพลุแตกมากในสมัยนั้น ทำให้ผู้สร้างทั้งสองกลายเป็นคนดังในช่วงเวลาต่อมาอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับโปรเจคอีกมากมายถูกส่งออกมาเรื่อยๆ

อะไรทำให้ Saw ประสบความสำเร็จ

ถามว่าหนังฆาตกรรม ตั้งแต่ดูมาไม่เคยมีเรื่องไหนเลยจะสร้างภาคต่อได้มากขนาดนี้ถึง 8 ภาค เท่าที่เคยเห็นมาก็จะมีแต่ เจสันศุกร์ 13 หรือไม่ก็ ไอ้มือมีดอย่างเฟรดดี้ ครูเกอร์เท่านั้นที่พอจะมีหลายภาค แต่ความสำเร็จ ถ้าเทียบกับ Saw ห่างกันไกลลิบ อะไรคือความสำเร็จ เรายกให้กับบทหนังนะ จริงอยู่ว่า หนังพูดเกี่ยวกับการฆาตรกรรมที่เลือดสาดนองเต็มพื้น แต่เอาจริงหากเรานั่งดูแล้วตัดเรื่องนี้ออกไป หนังกลับใส่เงื่อนกลได้สลับซับซ้อนแบบที่เราแปลกใจดี อีกทั้งการเชื่อมโยงตัวละครที่ดูไม่น่าจะเกี่ยวก็มาเกี่ยวกันได้อย่างลงตัว รวมถึงความคิดแนวปรัชญาที่ฆาตกรแฝงไว้อย่างน่าคิดทีเดียว อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จ เรายกให้กับวิธีการฆ่า ที่ต้องบอกว่าคิดได้ยังไง แต่ละอย่างมันมีความครีเอท คลาสสิค และไม่เหมือนใครจริงๆ ลองนึกภาพว่าหากเราต้องเป็นผู้สร้างเกมในห้องปิดตาย เราจะสร้างได้แบบเค้าไหมล่ะ